วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อาหารเพื่อผิวสวยในหน้าหนาว

                หน้าหนาวนี้สาว ๆ ทั้งหลายคงกำลังวิตกกังวลว่าจะทำอย่างไร  จึงจะดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านและแตกระแหง   สาวบางคนอาจใช้วิธีการดูแลผิวในหน้าหนาวด้วยการใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวใช่ไหมคะ  แต่วิธีการอย่างนั้นอาจจะได้ผลแต่เป็นช่วงระหว่างวันที่ครีมหรือโลชั่นเคลือบผิวเราไว้เท่านั้น   ยังมีวิธีที่ยั่งยืนและดีกว่านั้น  นั่นคือการกินอาหารเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะนอกจากจะทำให้เราสวยแล้วยังทำให้เราสุขภาพดีด้วย  เข้าทำนองทั้งสวยทั้งสุขภาพดี   ดังนั้นหนาวนี้เรามาหาอาหารบำรุงผิวกันเถอะค่ะ อย่ารอช้าเรามาเริ่มทำความรู้จักกับ อาหารบำรุงผิว กันเลยดีกว่าค่ะ
                                                          เนื้อปลา  
เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายที่เสื่อมโทรม และยังมีเซเลเนียมซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกาย

                                                   น้ำมันมะกอก  

น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันจากพืชที่แม้จะมีแคลอรี่สูงก็จริงแต่มีข้อดีคือ มีกรดไขมันชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกายสูงและเป็นไขมันชั้นดี ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และที่สำคัญในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วยวิตามินเอและอีที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวดูอ่อนวัยคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม

                                       เมล็ดข้าวและธัญพืช

ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ด ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ งา นอกจากจะมีวิตามินบีสูงแล้ว ยังมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ซึ่งจะช่วยสร้างและรักษาความแข็งแรงของเซลล์ มีงานวิจัยระบุว่า วิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยปกป้องความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะให้แก่ผิว
                                                 ผลไม้และผักสด 

ผักสดมีวิตามินเอช่วยทำให้ผิวหนังไม่แห้งและยังสดใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ และยังมีวิตามินซีซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ผิวพรรณของใบหน้าดูเต่งตึงมีความยืดหยุ่น ผักสดและผลไม้จึงควรเป็นอาหารที่คุณควรบรรจุไว้ในเมนูอาหารทุกมื้อของคุณ ผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ส้ม มะนาว มะเขือเทศ สับปะรด ฝรั่ง ส่วนผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอมาก ได้แก่ กล้วย มะละกอ ฟักทอง แครอท

                                                       น้ำเปล่า   

น้ำทำหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับทุกระบบภายในร่างกายและหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวพรรณไม่สดใส การดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วโต ๆ เป็นวิธีที่ทำให้ผิวผ่องแบบไม่ต้องลงทุนมาก เพราะน้ำจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและยังป้องกันผิวหย่อนยานจากการลดน้ำหนักอย่างฮวบฮาบอีกด้วย


ตัวอย่างเมนูอาหารบำรุงผิว

มื้อเช้า : สลัดผลไม้ราดด้วยโยเกิร์ตหรือสลัดผักสดกับน้ำสลัดใส

มื้อเที่ยง : ปลาจาระเม็ดนึ่ง แกงเลียง ข้าวกล้อง

มื้อว่าง : นมถั่วเหลืองหรือน้ำผลไม้คั้นสด ๆ

มื้อเย็น : ลาบเห็ด ซุบเต้าหู้ ข้าวกล้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก    www.n3k.in.th
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กินอย่างไรให้สุขภาพดีในหน้าหนาว

ฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนคงกังวลกับการรักษาผิวพรรณ เกรงว่า จะแตกลายด้วยพิษของสายลม จนลืมไปว่า ยังมีสิ่งที่ควรใส่ใจกว่า นั่นคือ การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อผิวพรรณที่ดีจากภายใน
      
       และหากคุณยังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้
สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้แนะนำวิธีการเลือกรับประทานที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมในช่วงฤดูหนาว ว่า อย่างแรกที่ผู้บริโภคควรรู้ คือ อากาศเปลี่ยนแปลงจึงทำให้มนุษย์ปรับตัวไม่ทัน ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยโดยเฉพาะไข้หวัด ส่วนคนที่ภูมิคุ้มกันดีอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วย ฉะนั้นต้องรับประทานอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย 3 อย่าง ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต,ไขมันและน้ำตาล
อาหารที่ควรรับประทานในช่วงหน้าหนาว
       ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง คือ การรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการมาโดยตลอด คือ 1.ต้องทานอาหารให้เพียงพอ 2.ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 3.ทานอาหารตามฤดูกาลเพราะธรรมชาติจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอยู่แล้ว รวมทั้งผักพื้นบ้าน พืชสมุนไพรเนื่องจากผักที่ปลูกในช่วงฤดูนี้จะเจริญเติบโตได้ดีและสมบูรณ์ จึงควรจะรับประทานผักเป็นหลัก เช่น ทานสลัด หรืออาหารไทยจำพวกแกงต่างๆ เพราะจะช่วยเพิ่มวิตามีน แร่ธาตุ นอกจากนี้ ในผักยังมีสารพฤกษเคมี หรือ ไฟโตนิวเทรียน ซึ่งมีสารช่วยต้านออกซิเดชัน ทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ, ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดีเอ็นเอ เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ลดการเกิดโรคมะเร็งได้,เพิ่มภูมิต้านทานโรค, ควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนอีกด้วย
      
       หากใครที่ไม่ชอบทานผัก ยังมีอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบทานผักแต่รักสุขภาพ คือ อาหารประเภทปลา เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวปลาจะเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และมีไขมัน หากลองสังเกตปลาในหน้าหนาวจะมีเนื้อแน่น รสชาติอร่อย นอกจากนี้ในเนื้อปลายังมีสารอาหารมากมาย เช่น เป็นอาหารที่มีโปรตีนดี ย่อยง่าย ไขมันต่ำ และมีไขมันไม่อิ่มตัวหรือโอเมก้า 3 โดยเฉพาะในปลาทะเลน้ำลึก แนะนำให้รับประทานสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะได้โปรตีนที่มีคุณภาพต่อร่างกาย

แกงส้มดอกแค อีกเมนูที่เหมาะกับหน้าหนาว
       “เมนูอาหารที่อยากแนะนำ เพราะสามารถหาวัตถุดิบและทำได้ง่าย คือ แกงส้มดอกแค มีรสเปรี้ยวปนขมเล็กน้อยและรสเผ็ด คนโบราณเชื่อว่ามีคุณค่าทางอาหารที่ดีต่อร่างกายมากมาย ซึ่งตรงกับหลักทางวิทยาศาสตร์ เช่น ดอกแคมีวิตามินซีช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนประกอบในเครื่องแกงประกอบไปด้วยสมุนไพรต่างๆ อย่างหอมแดง กระเทียม พริก ล้วนเป็นสมุนไพรเครื่องหอมระเหยช่วยเรื่องระบบหายใจสำหรับคนเป็นหวัด และยังมีเนื้อปลา ซึ่งมีโปรตีนและไขมันไม่อิ่มตัว นอกจากนี้ ยังไม่ทำให้เกิดไขมัยสะสมในร่างกายไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย
      
       ส่วนอาหารที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ควรหลีกเลี่ยง คือ อาหารประเภทไขมันอิ่มตัว จำพวกอาหารทอด หากจำเป็นต้องรับประทานควรใช้น้ำมันรำข้าวในการทอด และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนมากเนื่องจากน้ำตาล ไม่มีประโยชน์ทางพลังงานมากเท่ากับคาร์โบไฮเดรต เมื่อรับประทานเหมือนได้แค่ความหวานเท่านั้นหากรับประทานมากไปอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้ ส่วนข้าวแนะนำว่าควรทานไม่เกินวัน 3-4 ทัพพี หากมากไปจะกลายเป็นน้ำตาลสะสมในร่างกายได้
      
       ไม่ว่าจะฤดูกาลใดการรับประทานอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะต้องรับประทานทุกวันฉะนั้นเลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ผนวกกลับออกกำลังกายเป็นประจำเพียงเท่านี้ ก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันต่อโรคในทุกๆ ฤดูกาล
   ที่มา    www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID